- เซลล์ที่ขนเกิดการแบ่งตัวมากผิดปกติ ทำให้ไขมัน และ เคราตินจากแบคทีเรีย หรือเรียกอีกอย่างว่า "ขี้ไคล" ถูกปิดกั้นทางออก และสะสมอยู่ในต่อมขน เมื่อไม่สามารถระบายออก จึงเกิดตุ่ม Comedone ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของสิว
- ต่อมไขมันผลิตไขมันมากเกินไป และไปสะสมในต่อมขน ทำให้ คอมีโดน Comedone ขยายขนาดมากขึ้น หรือ เกิดการอักเสบที่ตอ่มขนนั้นๆ
- เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย บริเวณที่เป็นสิว และ เกิดการกระตุ้นให้การอักเสบ ขยายวงกว้าง เป็นตุ่มนูน ตุ่นหนอง เป็นถุงน้ำ (Cysts)
- การล้างหน้าเป็นการลดความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ ก็จริง แต่การล้างหน้าบ่อยๆเกินไป หรือ การใช้ ผงขัด,สครับ ด้วยจำนวนครั้งที่ถี่เกินไป อาจกลับกลายเป็นการทำให้เป็นสิว เพราะการขัดลอกผิวหน้า ทำให้ต่อมขนถูกทำลาย อีกทั้ง การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ผสมยาฆ่าเชื้อ (Chlorhexidine และ Triclosan) ไม่สามารถลดจำนวนสิวได้ แต่อาจทำให้เกิดความระคายเคืองและเป็นผื่นได้การล้างหน้าควรล้างอย่างเบามือ และหากเป็นสิว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อเจล Gel Based และหลีกเลี่ยง ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เช่น Lotion,Oil based
สิว-มักพบได้บ่อยมากในวัยรุ่น Teenage(Thirteen-nineteen)หรือ ช่วงวัยทีน
และเป็นคุณลักษณะที่บอกถึงการเข้าสู่วัยเจริญพันธ์
ช่วงอายุที่เป็นสิวมากที่สุด คือ ช่วงวัยรุ่นตอนกลางจนถึงก่อนเข้าสู่วัยหนุ่มสาวเต็มตัว
แม้การเป็นสิวไม่ได้เป็นอันตราย แต่กลับส่งผลอย่างมาก ต่อความมั่นใจ บุคลิกภาพ และการเข้าสังคม
- ใต้ผิวของเรา มีต่อมขนประกอบด้วยไขมันและเส้นขน ปกติเมื่อต่อมไขมัน ผลิตไขมัน (sebum)แล้วไขมัน จะถูกส่งตามท่อไปเส้นขน แล้วระบายออกทางผิวหนังภายนอก แต่เชื่อว่าการที่ไขมันถูกระบายออกสู่ผิวหนัง ทำหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง ช่วยให้ผิวนุ่มและเนียนเรียบ อีกทั้งมีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย เชื้อรา
-
สิวจึงมักพบมากบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่น เช่น แผ่นหลัง หนังศีรษะ ใบหน้าบริเวณ ทีโซน และหน้าอก เมื่อสิวหายแล้วอาจมีรอยแดง รอยดำ หรือรอยแผลเป็น
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เป็นสิว
ก็เพราะเกิดการอักเสบของต่อมจน และ การอักเสบของต่อมขนก็มีต้นเหตุจากปัจจัยอื่นต่างๆ ดังนี้- นอกจากนี้ เรื่องของอาหารก็นับว่ามีความเกี่ยวพันกัน และอาหารที่เชื่อว่า กระตุ้นให้เกิดสิวได้ คือ อาหารที่มีน้ำตาลสูง อย่าง ขนมหวาน,ไอศกรีม, อาหารที่ทำจากแป้งขาว, อาหารจานด่วน, ฟาสต์ฟู้ด, ขนมปังขาว อาหารที่ทำจาก นม, ช็อคโกแลต
- ส่วนอาหารที่เชื่อว่าจะช่วยให้อาการเป็นสิวดีขึ้น คือ กรดไขมันโอเมก้า 3, สังกะสี, สารต้านอนุมูลอิสระ,วิตามินเอ และ ไฟเบอร์
0 comments:
แสดงความคิดเห็น