10/16/2555

โรคกระดูกพรุนกับการออกกำลังกาย


โรคกระดูกพรุน

คือภาวะที่เนื้อของกระดูกมีมวลลดลง และมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน ทำให้มีโอกาสที่กระดูกเปราะบางและหักง่ายขึ้น ซึ่งมักเกิดกับผู้สูงอายุ สาเหตุมาจากมวลของกระดูกลดลงเรื่อยๆ

และอาจมีอาการกระดูกสันหลังทรุดทำให้หลังโกง ซึ่งในรายที่มีอาการหลังโกงมากๆ ส่งผลให้ปอดทำงานได้น้อยลง และเหนื่อยง่ายกว่าปกติ

นอกจากนี้ทำให้จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายจะถูกเปลี่ยนไปข้างหน้า ทำให้มีความเสี่ยงต่อการหกล้มและทำให้เกิดกระดูกหักในส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ส่วนใหญ่กว่าครึ่งของผู้ที่มีอาการกระดูกทรุดจากภาวะโรคกระดูกพรุนจะปวดหลังและอาจมีอาการปวดเรื้อรังซึ่งอาจเกิดจากกล้ามเนื้อหลังที่อ่อนแรง

นอกจากอายุที่มากขึ้น, การขาดแคลเซี่ยม ยังมีอีกปัจจัยที่สำคัญก็คือ การไม่ได้ออกกำลังกาย,การไม่ค่อยเคลื่อนไหว หรือมีกิจกรรมในแต่ละวันน้อย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มมวลกระดูก ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี ก็คือ วิตามินดีในแสงแดดนี่แหล่ะ

เพราะฉะนั้น การออกกำลังกายในช่วงเวลาแสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้า นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์แล้ว ยังสามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย ดังนั้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว
Excerise helps us have good figure

สำหรับผู้สูงอายุ ควรเลือกการออกกำลังกายที่ไม่หักโหมหรือทำให้ร่างกายอ่อนล้าจนเกินไป เช่น การเดิน, เต้นรำ, รำกระบอง หรือ รำไทเก็ก ฯลฯ

ส่วนในผู้ที่มีอาการกระดูกผุแล้วอาจทำกิจกรรมง่ายๆ และควรใช้เข็มขัดพยุงหลังช่วงที่ออกกำลังกาย เช่น ยกแขนขึ้นลงข้างลำตัว, นั่งเก้าอี้แล้วยกขาขึ้นลงเหมือนเดินหรือปั่นจักรยาน, บิดตัวไปซ้ายและทางขวาเท่าที่ทำได้, การเดินในน้ำ หรือกิจกรรมเบาๆ ที่ไม่เสี่ยงต่อการหกล้ม และไม่ส่งผลต่อกระดูกสันหลัง หรือต้องใช้จุดสมดุลของร่างกาย (ทั้งนี้ทั้งนั้นความแตกต่างของกล้ามเนื้อก็มีส่วนสำคัญในการเลือกวิธีออกกำลังกายด้วยเช่นกัน)

ไม่เพียงที่การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มมวลกระดูก ทำให้กระดูกหนาขึ้น ไม่เปราะ บาง แตกหักง่าย, กล้ามเนื้อหลังที่แข็งแรงจะช่วยพยุงกระดูกให้แข็งแรงเพิ่มขึ้น และการออกกำลังกายยังช่วยเสริมระบบประสาทที่ช่วยป้องกันการหกล้ม ทำให้การทรงตัวดีขึ้น ลดอันตรายจากหกล้มได้อีกด้วย

สำหรับเด็กๆ หรือ ผู้ที่ยังแข็งแรงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกันการดื่มนมเป็นประจำ จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง กล้ามเนื้อแข็งแรง รูปร่างสวยงาม การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องใช้เวลามาก เพียงอาทิตย์ละ 3 วัน วันละประมาณ 20-30 นาทีเท่านั้น จะช่วยป้องกันภาวะของโรคกระดูกพรุนได้


ขอบคุณข้อมูล: พบหมอศิริราช โดย ผศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช



2livehealthy.blogspot.com เป็นผู้โฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้า โดยการให้ข้อมูล ในการซื้อสินค้ากับเทรนดี้เดย์ www.trendyday.com ในฐานะสมาชิก affiliate ภายใต้การกำกับดูแลของ บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน)
Continue reading...

10/14/2555

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าอย่างไรให้ผิวสุขภาพดี


อย่ามองว่าการล้างหน้าเป็นเรื่องเล็กๆ เพราะนี่แหล่ะคือกุญแจสำคัญของการมีผิวที่สุขภาพดี

ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าให้เราเลือกใช้มากมายและมีหลากหลายรูปแบบ ทั้ง สบู่ก้อน, สบู่เหลว,โฟม,เจล,น้ำมัน,ครีม หรือน้ำมันที่กลายสภาพเป็นครีมเมื่อถูกน้ำ




แล้วผลิตภัณฑ์แบบไหนล่ะที่เหมาะกับผิวของเรามากที่สุด?


เพราะฉะนั้น ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ เหล่านี้ ว่าแต่ละอย่างทำมาจากอะไร จะได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้อยู่นั้นเหมาะกับผิวของเราหรือเปล่า
  • สบู่ก้อน

    Soap เกิดจากการผสมของ ไขมันพืช หรือ ไขมันสัตว์ กับ ด่างของโซเดียม หรือ โปแตสเซียม โดยทั่วไปมี มีความเป็นด่างและเป็นประจุลบ มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและการเกิดฟองดีมาก แต่ด้วยคุณสมบัติที่ชะล้างความมันได้ดี อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังได้
    ภายหลังการล้างหน้าผิวจะมีสภาพความเป็นด่างสูง ซึ่งเป็นสภาวะที่แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว เจริญเติบโตได้ดี สบู่ก้อนจึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวปกติ หรือ ผิวมัน แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางและระคายเคืองง่าย นอกจากนี้บางคนใช้สบู่ก้อนถูตัวไม่มีปัญหา แต่ถ้านำมาใช้ล้างหน้าด้วยก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้
  • สบู่สังเคราะห์

    Syndet หรือ Soapless Soap ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้อาจมาในรูปสบู่เหลว, สบู่ก้อน, โฟม หรือ เจล ก็ได้ สบู่สังเคราะห์สามารถปรับความเป็นกรดด่างให้เท่ากับผิวหนังของเราได้ และอาจมีการเติมสารที่ช่วยบำรุงความชื่นชื้นแก่ผิวหนัง
    สาร Surfactant เป็นสารทำความสะอาดที่นิยมใช้ใน Syndet หรือ Soapless Soap เพราะมีคุณสมบัติช่วยให้คราบไขมัน,สิ่งสกปรกบนผิวละลายรวมกับสบู่สังเคราะห์ และล้างออกด้วยน้ำได้ สารเหล่านี้มีอยู่หลายประเภท อาจเป็นประจุบวก, ประจุลบ, ไม่มีประจุ หรือ มีทั้งประจุบวกและประจุลบ ซึ่งความแตกต่างก็เป็นลูกเล่นของแต่ละผู้ผลิต และ สารที่มีประจุจะเกิดฟองและทำความสะอาดได้ดีกว่า สารที่ไม่มีประจุ แต่ ก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้มากกว่า

  • Healthy skin
  • โลชั่นเช็ดผิวหน้า

    หรือที่รู้จักกันว่า , Toner และยังมีชื่อเรียกอื่นเช่น Astringent หรือ Clarifying Lotion Toner มักนิยมใช้หลังจากล้างหน้า เพื่อกระชับรูขุมขน และใช้ในผู้ที่เป็นสิวง่าย นิยมเก็บไว้ในที่เย็น หรือตู้เย็นที่ไม่เย็นจนเกินไป เพราะเมื่อใช้เช็ดผิวจะรู้สึกเย็น และผิวสดชื่น บางแบรนด์อาจมีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ เพื่อชวยลดความมันบนใบหน้า

  • ครีมทำความสะอาดผิว

    Cleansing Cream หรือ Cleansing Oil และอาจมาในรูป Cleansing Milk ครีมน้ำนม ครีมทำความสะอาดผิวเหล่านี้ เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง แพ้ง่าย มีคุณสมบัติใช้เช็ดเครื่องสำอางได้ดี เพราะเครื่องสำอางส่วนใหญ่สามารถละลายในน้ำมัน ได้ดีกว่าในน้ำ

  • สครับ

    Scrup เม็ดสครับจะช่วยขัดเซลล์ผิวชั้นบนๆ ของหนังกำพร้าซึ่งเป็นเซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกไป ทำให้ผิวสะอาดขึ้น และ การใช้สครับบ่อยเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ สำหรับผู้ที่มีผิวบาง ควรเลือกชนิดที่เม็ดสครับขนาดเล็กและละเอียดมากๆ เพราะความกระด้างและขนาดของเม็ดสครับที่มีขนาดใหญ่ จะทำร้ายผิวได้มากกว่า
    การสครับผิวควรถูวนบนใบหน้าอย่างเบามือ ในช่วงแรกอาจทำทุกวัน ผ่านไป 2-3 วัน หรือ 1 อาทิตย์ (ขึ้นอยู่กับลักษณะผิว) ควรลดจำนวนครั้งลงเหลือ อาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้ง หรือ สองอาทิตย์ครั้ง สำหรับคนผิวบาง

  • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดประเภทไร้ไขมัน

    Lipid Free Cleanser เป็นสารทำความสะอาดผิวหนังโดยไม่มีสบู่และไขมัน ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำล้าง แต่สามารถทำความสะอาดผิวที่แห้งได้โดยเช็ดแล้วทิ้งฟิล์มให้ความชุ่มชื้นไว้

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวล้วนแล้วสามารถล้างไขมันบนผิวหนังได้ แต่ถ้าใช้ชนิดที่มีความเป็นกรด-ด่างสูง หรือ ใช้บ่อยเกินไป และเลือกชนิดที่ไม่เหมาะกับผิวหน้า ก็จะก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ แรกเริ่มอาจทำให้รู้สึก ผิวแห้ง ตึง, เริ่มมีริ้วรอย และหากในผู้ที่มีอาการแพ้อาจเป็น รอยผื่นแดง, ผิวแตก, ผิวเป็นขุย จนถึงขั้น ผิวหนังอักเสบได้

อีกทั้ง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว จะมีการใส่ สี, น้ำหอม เพื่อให้น่าใช้ขึ้น หรือใส่สารกันบูด, ยาฆ่าเชื้อ ให้มีอายุการใช้งานนานขึ้น สารปรุงแต่งเหล่านี้ก็มีส่วนทำให้เกิดการแพ้ได้

การล้างหน้าไม่จำเป็นต้องขัดถูแรง และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน จะมีฟองหรือไม่มีฟองก็ได้ เมื่อล้างหน้าแล้ว รู้สึกสะอาดสดชื่น หน้าไม่แห้งตึง เป็นขุย หรือแสบ
Continue reading...

10/09/2555

What is GP4G? and Benefits of GP4G


GP4G or Phytoplankton
Water and Glycerin and Artemia Extract


A unique plankton extract that energizes, protects skin from environmental stresses, and enhances maintenance and repair.


Phytoplankton derived from the Greek words, Phyto means plant

and Plankton means made to wander or drift.
They are microscopic organisms that live in any watery environments, both fresh and salty, some are bacteria, protists and most are single-celled plants.


Phytoplankton have chlorophyll to capture sunlight and they usend they use photosynthesis to turn it into chemical energy, like land plants. All phytoplankton photosynthesize consume carbon dioxide, and release oxygen, but some get additional energy by consuming other organisms.

There are many research of Scientists that the appearance of tiny organisms with the ability to convert sunlight, warmth, water and minerals into protein, carbohydrates, vitamins and amino acids marked the beginning of life, the single-cell plants that are the basis of all other life forms on planet earth. They are the 'vegetation' of the ocean.

So Phytoplankton provides essential life support to us directly - as a source of valuable vitamins and minerals - and indirectly, as a source of our oxygen.

Phytoplankton are the food utilized by the worlds largest and longest living animals. Blue whales, Bowhead whales, Whale Shark and many other types of whales all eat plankton. These whales live between 80 - 150 years old, can maintain great strength and endurance throughout their lives.

Phytoplankton provide many if not all of the trace elements we need, to keep this balance in our bodies, and help us live a full life at optimum health levels.

  1. For General Nutrition they contain ultra-potent lipids to enhance brain function.
  2. Supports a healthy heart with their variety of minerals and vitamins.
  3. Clinical tests show that phytoplankton can reduce cholesterol.
  4. Shown to stabilize blood sugar levels.
  5. Supports us in general mental alertness and can combat ADHD, Parkinson's and general dementia.
  6. Relieve pain and inflammation in our joints.
  7. Help in prevention of psoriasis and dermatitis.
  8. For good vision phytoplankton have been shown to be more effective than Lutein. As well, they support a healthy liver, good sleeping habits and an increase in energy levels.
  9. A list of the nutrition available from phytoplankton, include Vitamins B12, C and E, magnesium, chlorophyll, potassium and numerous other vitamins and minerals.

credit:
http://earthobservatory.nasa.gov
http://EzineArticles.com/?expert=Mike_Vincent
Continue reading...
 

To live healthy Copyright © 2009 Cosmetic Girl Designed by Ipietoon | In Collaboration with FIFA
Girl Illustration Copyrighted to Dapino Colada