ผิวขาวอมชมพู กับ ลูมิไนซ์ เพื่อผิวเนียนเรียบ เปล่งปลั่ง สดใส กับ...สารสกัดจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ลูมิไนซ์
- ปัจจุบัน โลกมีวิวัฒนาการต่างๆ เกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะความเจริญทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งนำพาปัญหาสิ่งแวดล้อม ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และการเกิดภาวะเรือนกระจก เกิดรอยรั่วของชั้นโอโซน และอุณหภูมิที่สูงขึ้นในปัจจุบัน เกิดภาวะโลกร้อนและมลพิษต่างๆ
- ทำให้มีปัญหาผิวภัณฑ์จากมลพิษ และอนุมูลอิสระที่ห้อมล้อมเราอยู่ทุกๆ วัน เราสามารถป้องกันได้ โดยทานอาหารที่มีคุณภาพ ร่วมกับการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อุดมด้วยคุณค่าจริงๆ
- ลูมิไนซ์มีสารสกัดเข้มข้น ที่สามารถฟื้นฟูและซ่อมแซมสภาพผิวจากภายในสู่ภายนอก จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และดีต่อสุขภาพผิวพรรณในระยะยาวมากกว่า เพราะสิ่งแวดล้อมภายนอก ไม่เอื้อต่อการดูแลสุขภาพผิว การดูแลสุขภาพผิวจากภายในจึงช่วยให้ผิวมีโครงสร้างที่แข็งแรง มีความยืดหยุ่นตัวดี การลดปริมาณเม็ดสีผิวที่มากเกินไป และการกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ ผิวจึวขาวนวลสดใสแลดูเนียนเรียบยิ่งขึ้น
ส่วนสำคัญ ในลูมิไนซ์ (30 แคบซูล)
- สารสกัดจากเปลือกสน (Pine Bark Extract) ต้นสนมาริไทม์ Maitime Pine เป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุยืนยาวและมีถิ่นกำเนิดในฝรั่งเศษ ชาวยุโรปในสมัยก่อนจะนิยมนำเปลือกต้นสนมาทำเป็นยาพื้นบ้าน ช่วยสำหรับลดอาการอักเสบ และระงับอาการปวด กันมาช้านาน
จนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ในวงการสมัยใหม่ได้ทำการวิจัยและค้นคว้า รวมถึงนำเปลือกสนมาริไทม์มาสกัดเพื่อให้ได้สารออกฤทธิ์ที่เข้มข้น และพบว่าสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์มีส่วนประกอบสำคัญของสารจำพวกไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง หรือที่เรียกว่า Super-strength antioxidant โดยมีสารที่ออกฤทธิ์ คือ โปรไซยานิดินส์ (Procyaanidins), แคทติซิน(catechin),ทาซิโฟลิน(taxifolin) และ กรดผลไม้(fruit acids) เป็นสารจำพวกฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) ที่มีโครงสร้างแบบโพลีฟีนอล (Polyphynol) สารเหล่านี้ จะมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ (Free Radical) หรือที่เรียกว่า เป็น สารแอนตี้ออกซิเดนท์(Antioxidants) ซึ่งคาดว่าสูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า และสูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า
- คุณสมบัติ
- ช่วยลดปริมาณการสร้างเม็ดสีผิวในบริเวณที่มากเกินไป ทำให้ปัญหาฝ้า และจุดด่างดำ หมองคล้ำลดลง
- ช่วย เสริมสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน(Elastin) อันเป็นโครงสร้างหลักที่ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น กระชับ และชะลอการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้เป็นอย่างดี
- ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดเพื่อนำพาสารอาหารเข้าสู่ผิว รวมทั้งกำจัดของเสียออกจากผิวได้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ผิวจึงแลดูมีเลือดฝาดและสุขภาพดี
- ช่วย ส่งเสริมการทำงานของระบบสำคัญในร่างกาย เช่นระบบหลอดเลือดและหัวใจ ปรับลดระดับความดันโลหิตปรับลดระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงลดอาการวัยทองให้น้อยลง
- แอล-ซีสเตอีน เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองแต่ปริมาณการสร้างจะลดลง เมื่ออายุเรามากขึ้น
แอล-ซีสเตอีน เป็นสารตั้งต้นสำหรับกระบวนการสร้างสารกลูต้าไธโอน (Glutathione) ที่มีฤทธิ์สำคัญในกระบวนการลดอัตราการสร้างเม็ดสีผิว(Melanogenesis) และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย ทำให้เซลล์แข็งแรง และผิวพรรณขาวสดใสขึ้น - สารสะกัดอะเซโรลา Acerola Extractจากสายพันธ์จากบราซิล มีความเข้มข้นของวิตามิน ซี ที่สูงมาก ด้วยระบบควบคุมในกระบวนการจัดเก็บ และรักษาคุณภาพของวิตามิน ซี จากอะเซโรลา ซึ่งมีฤทธิ์แอนตี้อ๊อกซิแดนท์ (Antioxidant) และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ยอมรับกันมานาน เมื่อทำหน้าที่ร่วมกับสารสกัดจากเปลือกสน และแอล-ซีสเตอีน จะให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อกระบวนการลดอัตราการสร้างเม็ดสีผิวได้อย่างมี ประสิทธิภาพ
- โคเอ็นไซม์คิวเทน เป็นสารกึ่งวิตามินที่ละลายในไขมัน ซึ่งมีอยู่ในไมโตคอนเดรียของเซลล์ ที่ร่างกายมนุษย์เราสามารถสร้างขึ้นเอง แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ถึงช่วงวัยกลางคนร่างกายก็จะสร้างโคคิวเท็นได้ลดน้อยลง ทำให้คนในวัยนี้มีโอกาสที่จะขาดโคเอ็นไซม์คิวเทน อาหารที่พบว่ามีโคเอ็นไซม์คิวเทน ได้แก่ ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า เครื่องในสัตว์ เฉพาะส่วนหัวใจและตับ ส่วนในพืชจะพบได้บ้างใน ถั่วลิสง และน้ำมันถั่วเหลือง
โคเอ็นไซม์คิวเทน มีหน้าที่สำคัญในกระบวนการสร้างพลังงานภายในเซลล์โดยเฉพาะอวัยวะที่ต้องทำ งานอย่างหนักและต่อเนื่อง จะต้องการพลังงานมากเป็นพิเศษ เช่น หัวใจ ตับ และไต เป็นต้น
ดังนั้นจะเห็นว่าในอดีตหลายปีที่ผ่านมา ทางการแพทย์จะมีการใช้โคเอ็นไซม์คิวเทน ในการป้องกันโรคหัวใจ เพราะมีการศึกษาชี้ให้เห็นว่า โคเอ็นไซม์คิวเทน จะช่วยยับยั้งไม่ให้คอเลสเตอรอลจับตัวเป็นก้อนแข็งในหลอดเลือดแดงที่ไป เลี้ยงหัวใจด้วย นอกจากนี้ยังมีการใช้โคเอ็นไซม์คิวเทนในการป้องกัน โรคสมองเสื่อม หรือ อัลไซเมอร์ รวมถึงโรคที่เกิดจากความเสื่อมหรือความชราอื่นๆ ด้วย เพราะโคเอ็นไซม์คิวเทนมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วยนั่นเอง
0 comments:
แสดงความคิดเห็น